ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 ธ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในทาวน์เฮ้าท์ 3 ชั้น ตั้งอยู่เลขที่ 106/22 หมู่ที่ 2 ซอยสุคนธวิท 9 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ที่เกิดเหตุบริเวณประตูด้านหลังบ้าน พบว่าประตูเหล็กมีรอยถูกงัดออก ส่วนที่ห้องนอนชั้นที่ 2 พบศพ น.ส.สิรารมย์ เหลืองประเสริฐ อายุ 49 ปี นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง สภาพศพสวมเสื้อยืดสีฟ้า นุ่งกางเกงเจเจขาสั้นสีขาวลายใบไม้ สวมกางเกงชั้นในสีน้ำตาล ถูกถลกลงมาด้วยกันถึงหัวเข่า สวมถุงเท้ายาวสีดำ
จากการชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น พบมีบาดแผลคล้ายถูกของแข็งตีที่ศีรษะ และถูกของมีคมบาดที่บริเวณต้นคอด้านหลังแต่ไม่ลึกมาก ขณะที่บนเตียงมีเศษกระถางต้นไม้แตกกระจาย และที่หมอนก็มีเลือดไหลเปรอะเปื้อนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนที่ข้อมือขวาของผู้ตายมีสร้อยทองคำน้ำหนักประมาณ 1 บาทสวมใส่อยู่ ขณะที่ภายในห้องนอนนั้น ก็มีร่องรอยการถูกรื้อค้นภายในตู้ไม้สำหรับเก็บตู้เซฟ และโต๊ะเครื่องแป้ง
เบื้องต้นแพทย์ระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิตน่าจะมาจากการขาดอากาศหายใจ เพราะบาดแผลที่พบตรงลำคอด้านหลังนั้นไม่สามารถทำให้เสียชีวิตได้ จึงเป็นที่เชื่อมั่นได้ว่าการตายน่าจะมาจากใบหน้าถูกกดกับหมอนจนสิ้นใจ ส่วนร่องรอยของการถูกข่มขืนนั้น จากการตรวจพิสูจน์ภายนอกยังไม่พบว่ามีการถูกข่มขืนแต่อย่างใดทั้งสิ้น ซึ่งต้องนำศพไปตรวจพิสูจน์ภายในอีกครั้ง
จากการสอบถาม นางทัศภาพัชญ์ เม็ชท์เลน อายุ 43 ปี เพื่อนของผู้ตายเล่าให้ฟังว่า ผู้ตายมีสามีชื่อนายฟิลลิปป์ อายุ 60 ปี เป็นชาวออสเตรเลีย และทำงานอยู่ที่นั่น นานๆ จะกลับมาบ้านสักครั้งหนึ่ง โดยในวันนี้นายฟิลลิปป์ได้โทรศัพท์มาหาผู้ตายหลายครั้ง แต่ไม่มีใครรับจนผิดสังเกต เลยโทรศัพท์มาหาสามีของตนซึ่งเป็นเพื่อนชาวออสเตรเลีย ให้ช่วยไปดูให้หน่อย
นายทัศภาพัชญ์ กล่าวต่อว่า โดยเมื่อตนมาถึงก็เห็นว่ามีน้ำแอร์ไหลลงมา จึงเชื่อว่าผู้ตายน่าจะอยู่ในบ้าน แต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครออกมา จึงเดินไปที่ด้านหลังบ้านก็พบว่าที่จับสำหรับเปิดประตูถูกงัดจนหักหล่นอยู่กับพื้น จึงคิดว่าน่าจะเกิดอะไรกับเพื่อนอย่างแน่นอน จึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ และเมื่อขึ้นไปดูก็พบว่าเพื่อนถูกฆ่าตายอยู่ภายในห้องนอน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งศพผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์ หาสาเหตุของการเสียชีวิตและร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างละเอียดที่ รพ.ศิริราช ส่วนทรัพย์สินของผู้ตายนั้น จะมีอะไรที่สูญหายไปหรือไม่ ต้องรอให้สามีของผู้ตายเดินทางมาถึงก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาถึงบ้านในเย็นของวันพรุ่งนี้
ที่มา: http://news.sanook.com/1713641
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น